ศุกร์. มี.ค. 29th, 2024
วอลเลย์บอลหญิง

วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย กับช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน จากสายเลือดเก่า สู่สายเลือดใหม่

วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย เชื่อว่าหลายๆคน ที่คอยติดตาม เชียร์ทีมวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทยมาโดยตลอด ในช่วงระยะเวลา หลายๆปี ที่ผ่านมา หลายๆคน คงมีภาพจำ กับนักกีฬา วอลเลย์บอล ในทีมชุดหนึ่ง หรือที่เหล่าแฟนคลับ ตั้งฉายา เรียกกันจนคุ้นหูว่า 7 เซียน

ทั้งหมดร่วมกัน เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ นำชื่อวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ให้เป็นที่รู้จัก ของคนทั่วโลก ตระเวนแข่งขัน ตามรายการต่างๆ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับวงการ กีฬาไทย วอลเลย์บอล หญิง ทีม ชาติ ไทย ย้อน หลังตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี

จนถึงวันที่พวกเขา ต้องวางมือ ประกาศอำลา ทีมชาติไทย เชื่อว่าหลายๆคน คงอดรู้สึกไม่ได้ว่า เมื่อหมดยุค เจ็ดเซียนแล้ว วงการวอลเลย์บอลหญิง จะเดินไป ในทิศทางไหน นักกีฬารุ่นใหม่ ที่เข้ามาแทนที่ จะต่อยอดความสำเร็จ เหมือนรุ่นพี่ ได้หรือไม่

และแฟนวอลเลย์บอล จะติดตามเชียร์ กันได้สนุกเหมือนเดิมหรือไม่ บทความกีฬาที่น่าสนใจ ขอนำเสนอเรื่องราวเกียวกับทีม วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กันครับ

วอลเลย์บอลหญิง

 7 เซียน กับจุดเริ่มต้น ความยิ่งใหญ่ในนาม ทีมชาติไทย

ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้น ก็คงต้องย้อนกลับไป ตั้งแต่ช่วงปี 1997 เมื่อ เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โค๊ชอ๊อด เริ่มทำภารกิจ กับสมาคม วอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ในการตามหา นักตบลูกยางดาวรุ่ง โดยใช้แนวทางการสร้างทีม แบบ ดรีมทีม

โดยให้นักกีฬาที่ผ่านการคัดตัว เข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ถ้าหากใครที่แวว และความสามารถมากพอ ก็จะมีโอกาส ขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่

และนั้นคือจุดเริ่มต้น ที่ 7 เซียนทั้งหมดนั้น ได้มารวมตัวกัน ลงแข่งขันในระดับเยาวชน ภายใต้การคุมทีมของ โค๊ชอ๊อด ก่อนที่จะพลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่

7 เซียน ที่พูดถึง คือนักวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย ประกอบไปด้วย ปลื้มจิตร ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, อำพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และวรรณา บัวแก้ว

ทั้งหมดคือกลุ่มนักกีฬา ที่เล่นด้วยกันมา ในนามทีมชาติไทย ตั้งแต่ ประมาณ 20 ปีที่แล้ว จนกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่ง ในเอเชีย

วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย ทีมที่แข็งแกร่งที่สุด ในประวัติศาสตร์ วอลเลย์บอลไทย

หลังจากที่ทั้งหมดได้ร่วมฝึกซ้อม และลงทำการแข่งขันด้วยกันมา ตามทัวร์นาเม้นต์ต่างๆ ตั้งแต่ในระดับเยาวชนอย่างยาวนาน จนทั้งเจ็ดคน เริ่มมีความสนิทสนม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และที่สัมผัสได้ คือทั้งเจ็ดคน ถือว่าเป้นนักกีฬา ที่เคมีเข้ากันสุดๆ จนเป็นจุดกำเนิดทีมวอลเลย์บอลที่ แข็งแกร่งทีสุด

โดยผลงานที่เริ่มเป็นที่ประจักต์ เริ่มต้นขึ้นช่วงปี 2009 ในการออกไปแข่งขัน ในระดับทวีปเอเชีย ที่ประเทศเวียดนามในปีนั้น โดยในรอบรองชนะเลิศ พวกเธอตบเอาชนะญี่ปุ่น ซึ่งป็นทีม ที่ทีมชาติไทยไม่เคยเอาชนะได้เลย ในช่วง 8 ปี ก่อนหน้านั้น

ก่อนที่ในนัดชิงชนะเลิศ พวกเธอจะเข้าไปโค่น ทีมอันดับหนึ่งของเอเชีย อย่างทีมชาติจีน คว้าแชมป์เอเชีย สมัยแรกให้กับประเทศไทย ได้สำเร็จ ก่อนที่จะมา ประสบความสำเร็จอีกครั้ง กับการคว้าแชมป์ เอเชียสมัยที่ 2 ในปี 2013 ที่โคราช ทำให้ความฝันของพวกเธอ กับการที่จะได้ไปเล่น ในมหกรรมกีฬา โอลิมปิก สักครั้ง เริ่มมีความหวังขึ้นมา

ถ้าพูดถึง วอลเลย์บอลหญิงไทย กับกีฬาโอลิมปิก ทีมชาติไทยยังไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นเลยซักครั้ง ทำได้แค่ เฉียดไปก้เฉียดมา โดยเฉพราะ รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ลอนดอน ถือเป็นครั้งที่เราเกือบจะได้ไปมากที่สุด

 ก่อนที่ความฝันจะพังทลายลง เมื่อผลการแข่งขันอีกคู่ ระหว่าง ญี่ปุ่น กับเซอร์เบียไม่เป็นใจ แบบงงกันทั้งประเทศ จนกลายเป็นภาพ ที่พวกเธอ น้ำตานองหน้า กอดให้กำลังใจกัน ในโรงแรมที่พัก

ก่อนที่ทุกคน จะมาผิดหวังอีกครั้ง ในรอบคัดเลือก ไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เชื่อว่า ความผิดหวังครั้งนี้ คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และเส้นทาง คงยุติเพียงเท่านี้ ก่อนที่จะส่งมอบความฝัน ให้กับรุ่นน้อง สายเลือดใหม่ โดยการนำทีมของ โค้ชด่วน ดนัย

วอลเลย์บอลหญิง

ทีมชาติไทยสายเลือดใหม่ กับความฝันที่พร้อมสานต่อ

จากที่นักกีฬารุ่นพี่ ประกาศอำลาทีมชาติไป ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อส่งผ่านภารกิจอันยิ่งใหญ่ ให้กับนักกีฬาสายเลือดใหม่ เดินหน้าสานต่อความสำเร็จ และมันนำมา ซึ่งความคาดหวัง จากแฟนกีฬา

และแรงกดดัน ที่เกิดกับตัวนักกีฬาเอง เพราะเชื่อว่า มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องเกิด การเปรียบเทียบ ระหว่างรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ ท่ามกลางการจับตามอง

รายชื่อนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย 2022 บางส่วนด้แก่ ปิยะนุช,ทัดดาว,พรพรรณ,อัจฉราพร,ชัชชุอร,พิมพิชญา จริงๆชื่อเหล่านี้ ก็พอจะเป็นที่รู้จักกันมาบ้างแล้ว เพราะทุกคน ก็เคยเป็นตัวสอดแทรก และเคยเล่นร่วมกับทีมชุดก่อน ถึงเวลาที่รุ่นพี่อำลาทีมไป พวกเธอเหล่านี้ ก็ต้องขึ้นมาทำหน้าที่ทดแทน

ก่อนที่จะมีบรรดาดาวรุ่งหน้าใหม่ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยล่าสุด แจ้งเกิดขึ้นมาเสริมทีม อย่างเช่น แก้วกัลยา,ศศิภาพร,วิภาวี,กรรณิการ์,สุพัตรา และอีกหลายๆคน ที่ก่อนหน้านี้เล่นอยู่ในชุด วอลเลย์บอล หญิง ทีม ชาติ ไทย u18

โค๊ชด่วน ขึ้นมาทำหน้าที่คุมทีม วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย วันนี้ แทนที่ของโค๊ชอ๊อด ที่ประกาศวางมือไป เมื่อหลายปีก่อน และสร้างผลงานไว้มากมายเช่นกัน โดยเฉพราะ กับการสร้างทีมใหม่ โดยพลักดันบรรดาดาวรุ่งดวงใหม่ ขึ้นมาสู่ทีม ดังรายชื่อที่กล่าวไว้ข้างต้น

และทีมชุดใหม่ก็สามารถ สานต่อความสำเร็จ ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน เช่นการป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ที่ผ่านมา และที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุด คือผลงาน วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ถ่ายทอด ในรายการเนชั่นลีกสนามแรก ที่ประเทศตุรกี ที่เพิ่งสิ้นสุดลงไป ทีมชุดนี้สานต่อผลงานที่สุดยอด ได้อย่างไม่คาดตก บกพร่อง

ด้วยผลงานเก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัด และแพ้ 1 นัด โดยเฉพราะ การตบเอาชนะทีมเต๋ง อย่างเซอร์เบีย และทีมชาติจีนไปได้ อย่างสนุก สร้างความประทับใจ ให้กับแฟนวอลเลย์บอลชาวไทย และทั่วโลก อย่างมากมาย

และนี่คงเป็นเพียงแค่ จุดเริ่มต้นในภารกิจสานต่อความยิ่งใหญ่เท่านั้น และหนทางยังอีกยาวไกล เมื่อเราดูจากผลงานที่เกิดขึ้น ทำให้เรารู้สึกได้ว่า ในอนาคตต่อไป เรายังคงติดตามเชียร์วอลเลย์บอลหญิงไทย แบบได้ลุ้น ได้สนุก ตื่นเต้นเช่นเคย

วอลเลย์บอลหญิง

จากคำถามที่ว่า ถ้าหมดยุค 7 เซียนไปแล้ว เปลี่ยนผ่านมาสู่ทีมสายเลือดใหม่ อนาคตวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย จะเป็นยังไงต่อไป และวันนี้พวกเขา นักตบลูกยางสายเลือดใหม่ ได้ให้คำตอบกับพวกเราแล้ว

และสิ่งที่แฟนกีฬาชาวไทยทุกคน อยากจะได้เห็น ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ไปโลดแล่นในรายการ ระดับโลก อย่าง โปรแกรมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กีฬาโอลิมปิกเกมส์ซักครั้ง มันยังคงเป็นไปได้ และความฝัน มันยังไม่พังทลายลงเช่นกัน

เรียบเรียงโดย บังบ้าบอล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *