ราชันพลิกนรก ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เรอัล มาดริด พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ราชันพลิกนรก ข่าวกีฬา วันนี้ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เปิดสนามซานติอาโก้ เบอร์นาเบว พบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยนัดแรก แมนฯซิตี้ เอาชนะไปได้ 4-3
เจ้าบ้านเปลี่ยนสองตำแหน่งจากนัดที่แล้ว นาโช่ เฟอร์นันเดซ ได้โอกาสลงสนามแทนที่ ดาวิด อลาบา ที่บาดเจ็บ และคาเซมิโร่ ที่นัดนี้ได้กลับมาออกสตาร์ทตัวจริง แทนที่ของโรดรีโก้
ส่วนทีมเยือน แมนฯซิตี้ เปลี่ยนสองตำแหน่งเช่นกัน นัดนี้กลับมาใช้แบ็คตัวจริงทั้งสองฝั่ง เจา คันเซโล่ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริง แทนที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และจอห์น สโตนส์
ต้นครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นมีโอกาสมากกว่า แต่พอผ่านไปสักพัก ทีมเยือนเริ่มตั้งเกมได้ แต่โดยรวมยังสูสี ทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังในนาที 68 เจ้าบ้านแก้เกมโดยการส่ง โรดรีโก้ ลงมาแทน โทนี่ โครส แต่กลับเป็นทีมเยือนที่ออกนำไปก่อนในนาที 73 จากจังหวะแบร์นาร์โด้ ซิลวา ผ่านบอลให้ ริยาด มาห์เรซ ซัดด้วยซ้าย เสียบเสาแรก คูร์ตัวส์ หมดสิทธิ์เซฟ
เกมดำเนินมาถึงช่วงนาที 90 เหมือนความหวังที่หมดไปของชุดขาว กลับมาอีกครั้ง โรดรีโก้ตัวสำรองสอดมาจิ้มตัดหน้าเอเดอร์ซอน เจ้าบ้านตีเสมอ 1-1 และต่อมาอีก 2 นาที เป็นโรดรีโก้คนเดิม โหม่งลูกเปิดของดานี่ คาร์บาฆาล เข้าไปแซงนำ 2-1 ทำให้ต้องต่อเวลาเพิ่มอีก 30 นาที เพราะสกอร์รวมเป็น 5-5 (ฤดูกาลนี้ยกเลิกกฏอเวย์โกล)
ช่วงต่อเวลา นาที 95 เรอัล มาดริดมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่รูเบ็น ดิอาส ไปทำฟาวล์ใส่ คาริม เบ็นเซม่า และเป็นเทพเบนซ์ ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไป เป็นประตูที่ 15 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ ในถ้วยบิ๊กเอียร์ ทำให้ทีมนำ 3-1 (สกอร์รวม 6-5)
หมดเวลา 120 นาที เป็นเรอัล มาดริด พลิกสถานการณ์ สามารถผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ ไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 14 โดยจะเข้าไปพบกับ ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 6 สมัย ในคืนวันที่ 28 พฤษภาคมนี้